เศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 33 ปีเมื่อช่วงไตรมาส 4 ของปี 2551 จากผลกระทบของยอดส่งออกที่ตกต่ำลลงประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมการเงินที่อ่อนแอจนกดดันให้สิงคโปร์ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรง
กระทรวงการค้าสิงคโปร์กล่าวในรายงานผลสำรวจเศรษฐกิจวันนี้ว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ในไตรมาส 4 ปี 2551 ติดลบ 16.4% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลงน้อยกว่าระดับคาดการณ์ที่ 16.9% ในก่อนหน้านี้
โดยรัฐบาลคาดว่า ในปีนี้ตัวเลขจีดีพีสิงคโปร์อาจหดตัว 2-5% ขณะที่นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง กล่าวว่า เศรษฐกิจในประเทศอาจยังเผชิญภาวะถดถอยตลอดทั้งปีนี้เมื่อเทียบกับเมื่อปี 2551 ที่ขยายตัว 1.1% ขณะที่การผลิตอุตสาหกรรมซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 25%ของจีดีพีสิงคโปร์ในไตรมาสดังกล่าวลดลง 10.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการขยายตัวภาคบริการร่วง 1.3% แต่ธุรกิจก่อสร้างขยายตัว 18.5%
ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์กำลังเร่งเดินหน้าพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและออกมาตรการกระตุ้นการดำเนินธุรกิจของบริษัทเอกชนเพื่อป้องกันการปลดพนักงานออกด้วยการอัดฉีดเงินช่วยเหลือท่ามกลางภาวะที่อุปสงค์ตกต่ำ โดยตัวเลขจีดีพีของสิงคโปร์ติดลบมา 3 ไตรมาสติดต่อกัน และกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยตามรอยญี่ปุ่น ฮ่องกง และนิวซีแลนด์
ซอง เซิน วัน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ CIMB-GK Securities Pte ในสิงคโปร์กล่าวผ่านทางสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า "อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะยังคงซบเซา เนื่องจากอุตสาหกรรมส่วนใหญ่แทบจะอยู่ในภาวะหยุดชะงัก และเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงช่วงขาลงอยู่มาก"