นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยไปจีนปี 52 ที่กำหนดเป้าหมายขยายตัว 0-7% มูลค่า 16,100-17,300 ล้านดอลลาร์อาจไม่เป็นไปตามนั้น เนื่องจากเศรษฐกิจจีนถูกกระทบรุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จะเร่งหามาตรการกระตุ้นการส่งออก โดยเฉพาะการเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้าและการลงทุนของไทยในตลาดจีน
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะโรดโชว์นำภาครัฐและภาคเอกชนไทยไปเยือนจีน ระหว่างวันที่ 26-28 มี.ค.52 โดยมีกำหนดจะพบผู้บริหารประเทศระดับสูงของจีน เพื่อเจรจาส่งเสริมและแก้ไขปัญหาด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน เพื่อผลักดันให้มูลค่าการส่งออกเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์การส่งออกเบื้องต้นในการเจาะตลาดจีน โดยจะเน้นไปที่มณฑลทางเหนือของจีนเพื่อที่จะใช้เป็นประตูส่งออกไปยังประเทศอื่นข้างเคียงด้วย เช่น ทิเบต, มองโกเลีย, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน และทาจิกิสถาน เป็นต้น โดยไทยได้ตกลงร่วมกับกลุ่มตลาดกลางที่ใหญ่สุดของจีน เพื่อใช้เป็นฐานส่งออกสินค้าเกษตรไทย เช่น ผัก-ผลไม้, ข้าว, สินค้าอุปโภคบริโภค, สินค้าประมงแช่แข็งไปยังมณฑลตอนเหนือของจีนและส่งออกไปยังประเทศที่ติดกับจีนตอนบนด้วย
"หากทำสำเร็จตามแผนที่ว่าไว้ เชื่อว่าจะทำให้การส่งออกของไทยเป็นไปตามเป้าหมาย และสามารถผลักดันให้มูลค่าการค้าของไทยตามที่ไทยและจีนได้ตกลงที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันภายใน 5 ปี ในสมัยที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรมว.พาณิชย์ เพิ่มเป็น 50,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะถึงกำหนดในปี 53 นี้บรรลุเป้าหมายด้วย" นายอลงกรณ์ กล่าว