สหรัฐเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก-สวัสดิการต่อเนื่อง พุ่งสูงเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Friday February 27, 2009 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งสูงเกินคาด ในขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องก็พุ่งสูง ส่งสัญญาณว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดแรงงาน

กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งสู่ระดับ 667,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2525 และเพิ่มขึ้นจากรอบสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 631,000 ราย

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง (เกิน 1 สัปดาห์) ก็พุ่งแตะระดับ 5.1 ล้านราย ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5 สัปดาห์ติดต่อกัน และมากกว่าตัวเลขของช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีเพียง 2.8 ล้านราย

ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องที่พุ่งสูงเกินคาดบ่งชี้ว่าแรงงานที่เพิ่งถูกปลดมีแนวโน้มหางานใหม่ได้ยากมาก

ตลาดแรงงานทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการในสหรัฐปลดพนักงานไปแล้วเกือบ 600,000 คนในเดือนม.ค. ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขรายเดือนที่สูงสุดในรอบ 35 ปี ส่งผลให้อัตราว่างงานพุ่งแตะ 7.6% ยิ่งไปกว่านั้นนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานอาจพุ่งแตะ 9% ภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะทุ่มงบประมาณกว่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม

นอกจากนั้นหลายบริษัทจะประกาศปลดพนักงานอีกในสัปดาห์นี้ อาทิ บริษัท มิลลิเคน แอนด์ โค (Milliken & Co) เตรียมปลดพนักงาน 650 คนทั่วโลก ส่วนบริษัท จีเวลเลอร์ เซล คอร์ป (jeweler Zale Corp.) ก็กำลังจะปลดพนักงาน 245 คน

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัท สแปนชั่น อิงค์ (Spansion Inc.) ผู้ผลิตแฟลชเมโมรี ประกาศเตรียมปลดพนักงานราว 3,000 คน ในขณะที่บริษัท ไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ (Micron Technology Inc.) ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ก็เตรียมปลดพนักงาน 2,000 คนภายในสิ้นเดือนส.ค.

เมื่อพิจารณาตามรัฐแล้ว นิวเจอร์ซีเป็นรัฐที่มีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ก.พ. โดยเพิ่มขึ้นกว่า 2,093 ราย อันเป็นผลมาจากการปลดพนักงานในภาคการบริการ การขนส่ง และการผลิต ส่วนแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากที่สุด โดยลดลงกว่า 16,550 ราย เนื่องจากภาคการบริการปลดพนักงานน้อยลง สำนักข่าวเอพีรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ