นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า การจัดทำกรอบเงินกู้ต่างประเทศ วงเงิน 70,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน โดยขณะนี้คลังได้เร่งประสานการทำงานกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อสรุปกรอบเวลาเพื่อที่รัฐบาลจะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาต่อไป แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะดำเนินการกู้เงินได้ภายในปีงบประมาณ 52 แน่นอน
"นายกรัฐมนตรี ต้องการดูตารางเวลา เพื่อที่จะได้นำเรื่องเสนอต่อสภา แต่คาดว่า จะสามารถกุ้เงินได้ภายในปีงบ 52 ทั้งการกู้จาก เอดีบี ธนาคารโลก และไจก้าที่ยังเป็นไปตามที่ตกลงไว้ " นายกรณ์ กล่าว
สำหรับกรอบโครงการรองรับการใช้เงินกู้ดังกล่าวนั้น รมว.คลังกล่าวว่า กระทรวงการคลัง จะได้ประสานงานกับ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดทำรายละเอียดโครงการ โดยเน้นโครงการที่จำเป็นเพื่อประโชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศและโครงการที่พร้อมลงทุน ซึ่งมีการจัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่ต้องใช้เม็ดเงินดังกล่าวที่เป็นไปตามเงื่อนไขและสอดคล้องกับกฎหมาย
รมว.คลัง ยืนยันว่า วงเงินกู้ต่างประเทศ 70,000 ล้านบาทจะต้องสามารถดูแลในเรื่องของการนำเข้าสินค้าต่างประเทศ การดูแลรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน และเกิดความคุ้มค่าของการใช้เงิน
อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง กล่าวว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจปี 52 ที่จะคาดว่าจะอยู่ในอัตราต่ำมาก แต่รัฐบาลเองมีข้อจำกัดของการใช้เงินงบประมาณ ซึ่งคงไม่สามารถกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าการที่รัฐบาล มีการออกมาตรการต่างๆ ทั้ง การจัดทำงบกลางปี เชื่อว่าจะส่งผลในการบรรเทาปัญหาของประชาชน ซึ่งต้องรอประเมินผลของมาตรการของรัฐบาลใน Q2/52 ว่ามีผลต่อเศรษฐกิจมาน้อยอย่างไร
ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงขณะนี้ คือ ปัญหาการว่างงาน ไม่ใช่เรื่องตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ จึงเห็นว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลนำออกมาใช้ ส่วนใหญ่เพื่อรองรับปัญหาการเลิกจ้าง เพราะจะมีผลโดยตรงต่อประชาชนและสังคม