เศรษฐกิจเอเชียทรุดหนัก หลังเศรษฐกิจโลกถดถอยฉุดยอดส่งออกดิ่งเหว

ข่าวต่างประเทศ Friday February 27, 2009 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารบาร์เคลย์สระบุว่า เศรษฐกิจในเอเชียซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออกได้ทรุดตัวลงรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลให้ดีมานด์สินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ และเซมิคอนดัคเตอร์ ปรับตัวลดลงด้วย

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือนม.ค.ทรุดตัวลง 10% และยอดส่งออกเดือนม.ค.ของญี่ปุ่นที่ทรุดตัวลง 45.7% สะท้อนให้เห็นว่าภาวะถดถอยของญี่ปุ่นซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่สุดในเอเชียกำลังถลำลึกสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 60 ปี ขณะที่เศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัว 16.4% ในไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 33 ปี เพราะถูกกระทบของยอดส่งออกที่ตกต่ำและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอลง และยอดส่งออกเดือนม.ค.ของฮ่องกงดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

"ภูมิภาคเอเชียกำลังถูกกระทบจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออกและดีมานด์ภายในประเทศ สถานการณ์เช่นนี้กำลังบีบให้รัฐบาลในประเทศเอเชียเร่งใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ" นิโคลัส บิบบี นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส พีแอลซี ในสิงคโปร์กล่าว

ภูมิภาคเอเชียกำลังได้รับผลกระทบหนักสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ Great Depression เนื่องจากเอเชียเป็นภูมิภาคที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั่วโลก เมื่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยจึงส่งผลให้เศรษฐกิจเอเชียอ่อนแอลง และส่งผลให้รัฐบาลในประเทศเอเชียเร่งใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงเงินเกือบ 7 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

นอกจากนี้ ประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ยังพร้อมใจกันลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ โดยเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.50% สู่ระดับ 1.5% ขณะที่ธนาคารกลางอินเดีย ธนาคารกลางออสเตรเลีย และธนาคารกลางมาเลเซีย ตัดสินใจลดดอกเบี้ยเช่นกัน

เศรษฐกิจอินเดียในไตรมาส 4 ปี 2551 ขยายตัวเพียง 6.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 5 ปีเนื่องจากยอดส่งออกร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวเพียง 1.4% ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 8 ปี และเศรษฐกิจเกาหลีใต้มีแนวโน้มหดตัวลง 4% ในปีนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ