วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ จะตกอยู่ในภาวะ "ระส่ำระสาย" ตลอดทั้งปีนี้ เนื่องจากสถาบันการเงินขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยเงินกู้แบบขาดวินัยในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู
การแสดงความคิดเห็นของบัฟเฟตต์มีขึ้นหลังจากกระทรวพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี และมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะหดตัวเพียง 3.8% เนื่องจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออก, ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชน
"เศรษฐกิจสหรัฐจะตกอยู่ในภาวะระส่ำระสายตลอดทั้งปีนี้ แม้รัฐบาลพยายามใช้มาตรการมากมายเพื่อประคับประคองให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยก็ตาม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะระบบการธนาคารตกอยู่ในภาวะชะงักงันเนื่องจากสถาบันการเงินขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยกู้เงินแบบขาดวินัยในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู พวกเราจะถูกกระทบอย่างถ้วนหน้า ทั้งกลุ่มวอลล์สตรีท เมนสตรีท หรือไซด์สตรีท พวกเราล้วนต้องลงเรือลำเดียวกันไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม" บัฟเฟตต์กล่าว
"ภาวะเศรษฐกิจหดตัวในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ประกอบกับวิกฤตการสินเชื่อ ราคาบ้านและตลาดหุ้นตกต่ำอย่างหนัก ได้ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การขาดทุนในภาคเอกชนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ถดถอยลง ยังทำให้เศรษฐกิจสหรัฐขาด 'แรงขับเคลื่อนหลัก' ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะสร้างความหวั่นวิตกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น" บัฟเฟตต์กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน