บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ใกล้บรรลุข้อตกลงฉบับใหม่กับรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมถึงการผ่อนคลายข้อกำหนดในมาตรการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกันถือหุ้นในบริษัทกิจการในเครือของเอไอจี อาทิ อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล แอสชัวรันซ์ (เอไอเอ) และจะช่วยให้เอไอจีชำระหนี้น้อยลงด้วย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ข้อตกลงกับเอไอจีที่มีการปรับปรุงล่าสุดนี้จะมีการปรับข้อกำหนดที่เปิดทางให้รัฐบาลถือหุ้นเพิ่มเอไอจีอีกราว 30,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งผ่อนคลายเงื่อนไขของหุ้นบุริมสิทธิ์เอไอจีที่รัฐบาลได้เข้าซื้อเมื่อครั้งก่อน และลดดอกเบี้ยสินเชื่อรัฐบาลที่ให้แก่เอไอจีจำนวน 60,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ เอไอจีจะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตรา LIBOR (อัตราดอกเบี้ยเรียกเก็บระหว่างธนาคารในตลาดลอนดอน) บวก 3% สำหรับวงเงินสินเชื่อที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือ แต่ตามข้อตกลงใหม่ เอไอจีจะไม่ต้องจ่ายอัตรา LIBOR ซึ่งจะทำให้เอไอจีประหยัดเงินได้ราว 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
รายงานระบุว่า เพื่อแลกกับการลดเงื่อนไขการชำระหนี้ เอไอจีจะยินยอมให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าถือหุ้นในอเมริกัน ไลฟ์ อินชัวรันซ์ (เอลิโก) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้ให้กับเอไอจี และเอไอเอ กลุ่มกิจการประกันชีวิตที่มีฐานในฮ่องกงและเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดประกันชีวิตชนิดเกินครึ่งในหลายประเทศของเอเชีย
เมื่อไม่นานมานี้ เอไอจีเปิดเผยว่าทางบริษัทกำลังประเมินทางเลือกใหม่ๆที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาด้านการเงินที่เกิดขึ้นในบริษัท ซึ่งการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า เอไอจีอาจขาดทุนเป็นวงเงินสูงถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลมากขึ้น
บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างเอไอจีประสบปัญหาด้านการเงินจนเกือบต้องล้มละลายในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว แต่รัฐบาลสหรัฐได้อัดฉีดเงินเข้ามาช่วยเหลือมูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจากนั้นในเดือนพ.ย.รัฐบาลได้เพิ่มเงินช่วยเหลือเป็น 1.50 แสนล้านดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน