ยอดส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ของออสเตรเลียส่อเค้าร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเหมืองรายใหญ่อย่างบีเอชพี บิลลิตัน และริโอ ทินโต กรุ๊ป
รายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติของออสเตรเลียระบุว่า ยอดขายสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มลดลง 17% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.62 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.02 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในรอบ 1 ปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2553 เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 1.96 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในก่อนหน้านี้
จากสถานการณ์ของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำลงหนักสุดในรอบกว่า 50 ปีเมื่อปีที่ผ่านมาได้กดดันให้ริโอ และบีเอชพีปรับลดกำลังการผลิตและปิดกิจการเหมืองลง โดยทางสำนักงานคาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะลดลง 0.6% ในปีนี้ก่อนที่เศรษฐกิจจีนและอินเดียจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 3% ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์สินค้าประเภทวัตถุดิบกลับคืนมาได้
เดวิด มัวร์ นักวิเคราะห์จากธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย กล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า "ในช่วงปลายปี 2552 เราอาจได้เห็นถึงสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นและจะเป็นผลดีต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ จากอานิสงส์ของจีนซึ่งเร่งใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รุกหนักกว่าประเทศอื่นๆ"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงสู่ระดับ 0.25-0% พร้อมทั้งจะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้ครอบคลุมถึง 10 ปี ขณะที่จีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียได้ปรับลดดอกเบี้ยพร้อมทั้งประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวน (5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)