ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐส่อแววถดถอยเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน หลังจำนวนชาวอเมริกันที่ทำสัญญาซื้อบ้านมือสองมีแนวโน้มว่าจะลดลงในเดือนม.ค.
โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองที่รอปิดการขายอาจปรับตัวลดลง 3.5% ในเดือนม.ค. หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 6.3% ในเดือนธ.ค. ก่อนที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ณ เวลา 10.00 น.ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน
ตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวและจำนวนบ้านถูกยึดที่พุ่งสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดให้ราคาบ้านร่วงหนักและทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องการซื้อบ้าน ส่งผลให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต้องออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือเจ้าของบ้านและสร้างงานไปพร้อมๆกัน
"ราคาบ้านอาจร่วงลงต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า" อดัม ยอร์ก นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท วาโชเวีย คอร์ป ในนอร์ท แคโรไลนา กล่าว "ส่วนในปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังซบเซาอย่างมาก"
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านมือสองที่รอปิดการขาย ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบ่งชี้สภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ และได้รับการเปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมี.ค.2548 แต่มีข้อมูลย้อนหลังไปถึงเดือนม.ค.ปี 2544 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน