กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กำลังพิจารณาที่จะขยายขอบเขตการปล่อยเงินกู้ ด้วยการผ่อนปรนเงื่อนไขในโครงการสินเชื่อฉุกเฉินที่ประเทศสมาชิกไม่ให้ความสนใจ โดยบอร์ดของไอเอ็มเอฟอยู่ในระหว่างการพิจารณาขยายโควต้าการมีส่วนร่วมของประเทศสมาชิกถึง 5 เท่า ซึ่งการริเริ่มเพื่อเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ 4 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีประเทศสมาชิกประเทศเข้ามาขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่นายโดมินิค สเตราส์ คาห์น กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟเคยตั้งเป้าไว้ว่าจะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกลุ่มนี้ที่มีความต้องการเงินทุนระยะสั้น
นายสเตราส์ คาห์น พยายามที่จะเพิ่มอิทธิพลของไอเอ็มเอฟแก่ประเทศที่มีปัญหาด้านหนี้สินที่ต้องการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคาดว่า เป้าหมายดังกล่าวได้รับผลกระทบจากข้อตกลงของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ในการสว็อปเงินดอลลาร์กับสกุลเงินท้องถิ่นของบราซิล เม็กซิโก และเกาหลีใต้ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รายใหญ่ที่สุด
ไมเคิล มุสซา เจ้าหน้าที่ของสถาบันปีเตอร์สันและอดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า การจัดตั้งกลไกเสริมสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับไอเอ็มเอฟได้ อีกทั้งยังช่วยรับประกันว่า ไอเอ็มเอฟจะยังคงช่วยเหลือประเทศที่มีเสถียรภาพได้ด้วยเช่นกัน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อเสนอในการปรับปรุงข้อตกลงในการปล่อยกู้ของไอเอ็มเอฟจะเป็นวาระที่จะนำมาพิจารณาในการประชุมกลุ่มประเทศ G-20 ในกรุงลอนดอน วันที่ 2 เม.ย.นี้