บริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์ ของมหาเศรษฐีชื่อดัง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประกาศปลดพนักงานด้านการผลิตและปิดโรงงานหลายแห่งเพราะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากผลประกอบการของเบิร์คเชียร์ปี 2551 ร่วงลงรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเบิร์คเชียร์ได้ปลดพนักงาน 16% เหลือเพียง 11,998 คนบริษัท เคลตัน โฮมส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างอาคารในโรงงาน และได้ปลดพนักงาน 6.2% เหลือเพียง 28,974 คนที่บริษัท ชอว์ อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตพรม
นอกจากนี้ เบิร์คเชียร์ซึ่งมีธุรกิจในเครือมากกว่า 70 แห่ง ได้ปลดพนักงานที่บริษัท แอ็คมี บิลดิงส์ แบรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอิฐก่อสร้าง, บริษัท เบนจามิน มีวาร์และบริษัท อาร์ซี วิลลีย์ โฮม เฟอร์นิชชิงส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสีทาบ้าน และบริษัท ฟอเรสท์ ริวเวอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการสันทนาการ
"เบิร์คเชียร์ตัดสินใจลดจำนวนพนักงานในธุรกิจด้านการผลิต และจะต้องดำเนินการลดต้นทุนต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมถึงการลดกำลังการผลิต ลดการใช้จ่ายด้านทุน ปิดโรงงานหลายแห่ง และลดการจ้างงาน เพื่อชดเชยกับการขาดทุนที่เป็นผลมาจากดีมานด์สินค้าถดถอยลง" เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวีย์กล่าวในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ
เบิร์คเชียร์เผชิญชะตากรรมเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ รวมถึงเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป และบริษัท เมซีย์ ที่ตัดสินใจลดต้นทุนด้วยการปลดพนักงาน ขณะที่วิกฤตการณ์การเงินโลกที่รุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปีส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการซบเซาลง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 7.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า อัตราว่างงานเดือนก.พ.จะพุ่งขึ้นแตะ 7.9% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน