ธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ซึ่งเพิ่งมีข่าวว่าอาจจะระดมทุนมูลค่า 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในเอเชียโดยไม่ต้องเข้าซื้อหุ้นในสถาบันการเงินแห่งใด ในขณะที่สถาบันการเงินคู่แข่งรายอื่นๆยังคงใช้นโยบายรัดเข็มขัดและขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล
แซนดี้ ฟล็อคฮาร์ท ซีอีโอฝ่ายกิจการเอเชีย-แปซิฟิกของเอชเอสบีซีกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า "เราเชื่อว่าเราจะสามารถขยายตัวได้อีกในขณะที่คู่แข่งของเราถอดใจกันไปเป็นส่วนใหญ่ เราสามารถขยายงานโดยที่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนซื้อหุ้นในสถาบันการเงินแห่งใด"
สถาบันการเงินคู่แข่งของเอชเอสบีซี รวมถึงรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์, ซิตี้กรุ๊ป และแบงค์ ออฟ อเมริกา คอร์ป เผชิญวิกฤตการณ์ด้านการเงินจนต้องชะลอการปล่อยกู้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และชะลอการขยายกิจการในต่างประเทศ หลังจากขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ขณะที่เอชเอสบีซีซึ่งก่อตั้งขึ้นในจีนและฮ่องกงมากว่า 140 ปี ยังไม่เคยขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล จึงทำให้ธนาคารไม่ต้องตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด
"เรายังเป็น 'ขาใหญ่' ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ผลกำไรส่วนใหญ่ของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ซึ่งถือเป็นฐานรายได้ที่แข็งแกร่งของเรา" ฟล็อคฮาร์ทกล่าว
ทั้งนี้ เอชเอสบีซีซึ่งเก็บเกี่ยวกำไร 75% จากประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ได้วางแผนที่จะเพิ่มสาขาอีก 10-15 แห่งในจีน ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของเอชเอสบีซี ล้มเลิกแผนการเปิดสาขาใหม่ในญี่ปุ่นอีกสามแห่ง เนื่องจากต้องลดต้นทุน หลังจากที่บริษัทเพิ่งปิดสาขาสองแห่งของนิกโก คอร์เดียล ซีเคียวริตี้ส์ อิงค์ ซึ่งเป็นธุรกิจโบรกเกอร์ในญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน