นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถาบันการเงินต่างประเทศที่มีสาขาในไทยขณะนี้ พบว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากบริษัทแม่ในต่างประเทศที่ประสบปัญหา ทั้ง ซิตี้กรุ๊ป AIG กรุ๊ป และ HSBC กรุ๊ป
ประกอบกับ บริษัทแม่ยังไม่มีนโยบายที่จะปิดสาขาในไทย โดยทั้งซิตี้แบงก์และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้(HSBC)มีเพียงสาขาเดียวในไทย และทำธุรกรรมส่วนใหญ่กับคนไทย
นอกจากนี้ ธปท.ได้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับการส่งเงินกลับบริษัทแม่ จากความกังวลว่าอาจกระทบฐานะการเงินของธนาคารเหล่านี้ พบว่ามีการโอนเงินกลับบริษัทแม่บ้างแต่เป็นจำนวนไม่มาก เงินทุนของสาขาธนาคารเหล่านี้ยังอยู่ตามเกณฑ์มาตรฐานของธปท. ดังนั้นลูกค้าของธนาคารยังสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ
นายสรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ฐานะของธนาคารทั้ง 2 แห่ง ทั้งซิตี้แบงก์สาขาในไทย มีสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) 8.9% มียอดสินเชื่อคงค้าง 9.1 หมื่นล้านบาทมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 5.3%
ขณะที่สาขาของ HSBC มี BIS 11.2% และมีสินเชื่อคงค้าง 8.5 หมื่นล้านบาท และ NPL 0.9% ส่วนธนาคารเอไอจีเพื่อรายย่อย คาดว่าจะสามารถดำเนินการขายและโอนกิจการให้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY)ให้แล้วเสร็จภายใน เม.ย. 52 โดยปัจจุบันมี BIS 23.6% ยอดสินเชื่อคงค้าง 3.5 หมื่นล้านบาท และ NPL 4.37%