ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เยน และฟรังค์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เกิดความผันผวนในระบบการธนาคารของสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ระดับ 98.300 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 97.210 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1754 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1752 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2564 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2583 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4052 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4048 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6384 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6293 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 0.4952 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.4923 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยรุนแรงและเกิดความผันผวนในระบบการธนาคาร ส่วนการที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการพยุงเศรษฐกิจนั้น ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนตอบสนองในด้านบวกมากนัก เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้สะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระดับที่ลึกขึ้น
โพลล์ ABC News เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงแตะระดับ -49 จุด ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 มี.ค. จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ -48 จุด ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ในเดือนม.ค.ร่วงลงอ 7.7% เหลือเพียง 80.4 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ NAR เริ่มเก็บข้อมูลในปีพ.ศ.2544
ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากการที่สหภาพยุโรป (อียู) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยุโรปจะหดตัว 1.8% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจลัตเวีย อดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตที่เคยมีการขยายตัวได้อย่างโดดเด่นเมื่อ 3 ปีก่อน จะหดตัว 6.9% ส่วนในโปแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกจะทรุดตัวลงสู่ระดับ 2% ซึ่งทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2545
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 5 มี.ค. โดยมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะลดดอกเบี้ยลงอีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้น
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 3.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปีที่ 3% นายเกลน สตีเฟ่น ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะยังขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆทั่วโลก เนื่องจากออสเตรเลียมีระบบการเงินที่ดีกว่าและทางรัฐบาลใช้นโยบายการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ให้ฟื้นตัวขึ้นเหนือความคาดหมาย