ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% สู่ระดับ 7.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เพื่อกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในขณะที่ยอดส่งออกของอินโดนีเซียทรุดตัวลงอย่างหนัก ซึ่งการตัดสินใจดอกเบี้ยครั้งล่าสุดสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
เดสทรี ดามายันติ นักวิเคราะห์จาก PT Mandiri Sekuritas ในกรุงจาการ์ต้ากล่าวว่า อินโดนีเซียกำลังกระตุ้นความต้องการในการซื้อบ้าน รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ หลังจากยอดส่งออกเดือนม.ค.ทรุดตัวลงหนักสุดในรอบ 22 ปี และหลังจากเมอร์ริล ลินช์ ประกาศลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียประจำปี 2552 เหลือเพียง 3.6% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 8 ปี
"เรายังต้องพึ่งพาดีมานด์ภายในประเทศ หากธนาคารกลางอินโดนีเซียลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้ ประชาชนก็คาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์จะลดลงด้วย โดยในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว อัตราการอุปโภคบริโภคสาธารณะซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของมูลค่าเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้นเพียง 4.8% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส" ดามายันติกล่าว
ยอดขายรถยนต์โตโยต้าและแบรนด์คู่แข่งในอินโดนีเซีย ร่วงลง 23% เหลือเพียง 31,637 คันในเดือนม.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี ขณะที่ยอดขายจักรยานยนต์ลดลง 22% ในเดือนดังกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน