นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณฑ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจอนุมัติกรอบการดำเนินการกู้จากต่างประเทศตามมาตรการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 7 หมื่นล้านบาท โดยจะยื่นเรื่องขอกู้จากสถาบันการเงินต่างประเทศ 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารโลก, ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย(เอดีบี) และไจก้า ซึ่งรัฐบาลจะต้องดำเนินการตามกรอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่กำหนดให้ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรก่อน
เงินกู้ดังกล่าว จะมาจากธนาคารโลกจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์ กระทรวงการคลังจะเริ่มเจรจาขอกู้เงินในเดือน เม.ย.-พ.ค.52 เพื่อนำรายละเอียดกลับมาเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก่อนที่จะรวบรวมรายละเอียดเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในช่วงก่อนสิ้นเดือน พ.ค.52 โดยคาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะผ่านการพิจารณาได้ในเดือน มิ.ย.52 หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถดำเนินการกู้เงินได้ในเดือน ก.ค.52
ส่วนการกู้เงินจากเอดีบีและไจก้าแห่งละ 500 ล้านดอลลาร์ จะดำเนินการในเวลาใกล้เคียงกัน โดยเริ่มการเจรจาขอกู้เงินในเดือน พ.ค.-ก.ค.52 หลังจากนั้นจะนำรายละเอียดกลับมาเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุม ครม.และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาได้ภายในวันที่ 31 ก.ค.52 โดยคาดว่าจะผ่านการพิจารณาภายในเดือน ส.ค.52 และจะสามารถเบิกจ่ายเงินกู้ได้ในเดือน ก.ย.52