นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.ของสหรัฐจะหดตัวลง 41 จุด จากเดือนม.ค.ที่ 42.9 จุด ซึ่งจะเป็นการหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากตัวเลขว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น โดยสำนักงานจัดการด้านอุปทาน (SMI) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.ในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)
สตีเฟ่น สแตนลีย์ นักวิเคราะห์จาก RBS Greenwich Capital กล่าวว่า บริษัทหลายแห่งตั้งแต่บริษัทค้าปลีกอย่างเจ.ครูว์ กรุ๊ป จนถึงสถาบันการเงินรายใหญ่อย่างเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ประกาศลดการจ้างงานและลดการใช้จ่าย ในขณะที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายรอบด้าน ซึ่งส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคถดถอยลงด้วย แม้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้คำมั่นสัญญาว่า จะกระตุ้นการจ้างงานและฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม
ADP Employer Services รายงานว่า การจ้างงานในภาคเอกชนลดลง 630,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ ADP เริ่มจัดเก็บข้อมูลในปีพ.ศ.2544 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยเป็นเวลา 2 วันก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ. ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะร่วงลง 650,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี และมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะหดตัวเพียง 3.8% เนื่องจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออก, ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน