นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนจะเพิ่มการลงทุนในปีนี้จำนวนมาก เพื่อรับมือกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจประเทศ ในปีนี้ จีนต้องเผชิญกับความท้าทายและความลำบากต่างๆนานา ดังนั้น จีนจึงจำเป็นต้องพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
การส่งออกที่ร่วงลงของจีนนั้นฉุดรั้งเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวในระดับที่อ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบ 7 ปี ส่งผลให้เกิดแรงงานว่างงานถึง 20 ล้านราย อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในสังคมขึ้น ดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้คอมโกสิตก็ทะยานขึ้นถึง 6.1% เมื่อวานนี้ นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะเพิ่มแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก จากเดิมที่มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า เบน ซิมเฟนดอฟเฟอร์ นักเศรษฐศาสตร์ของโรยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ กล่าวว่า นับเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่ยังไม่มีการประกาศเรื่องตัวเลขการลงทุนที่แน่นอน บางจีนอาจจะอนุรักษ์นิยมและเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า หน่วยงานรัฐในระดับท้องถิ่นของจีนจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนเงินทุนของงบประมาณกระตุ้นทางการเงิน
ทั้งนี้ ในรายงานของนายกฯจีนที่จะมีการนำเสนอให้กับที่ประชุมสมัชชาประชาชนจีนนั้น ยังได้มีการย้ำถึงเป้าหมายในการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 8% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.7% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ขยายตัวในระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี
ส่วนยอดขาดดุลงบประมาณในปีนี้ถูกกำหนดไว้ที่ 7.50 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นเป็น 9.50 แสนล้านหยวน ซึ่งรวมถึงพันธบัตรของรัฐบาล เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้รายลดลง รัฐบาลจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ โดยยอดขาดดุลอาจจะอยู่ในช่วง 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
สำหรับงบประมาณด้านการเงินนั้น นายกฯจีนคาดว่า จะเพิ่มขึ้น 22% ในปีนี้ มาอยู่ที่ 7.62 ล้านล้านหยวน หรือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้น 25.4%
ส่วนงบประมาณสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการนำไปใช้กับโครงการสาธารณูปโภคนั้น จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมในปีนี้ที่ 9.08 แสนล้านหยวน