เวียดนามเตรียมใช้นโยบายจ่ายเงินอุดหนุนด้านการส่งออกในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ พร้อมลดภาษีการนำเข้าฝ้ายลงสู่ระดับ 5% จาก 10% เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมดังกล่าว และช่วยให้โรงงานสามารถรับมือกับอุปสงค์ที่ตกต่ำลง ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออกของในประเทศ
ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอของเวียดนามเปิดเผยว่า ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.จำนวนผู้ตกงานจากภาคอุตสาหกรรมสิ่งทออยู่ที่ราว 100,000 คน จากปกติที่มีพนักงานประมาณ 2 ล้านคน เนื่องจากยอดสั่งซื้อสินค้าลดลง ขณะที่ในปีนี้กระทรวงแรงงานเวียดนามคาดว่า ยอดคนตกงานจะเพิ่มขึ้นราว 400,000 ราย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ด้านเหงียน ตัน ดุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามยืนยันถึงแผนเพิ่มการใช้จ่ายเงินภาครัฐ 300 ล้านดอง (1.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งรวมถึงการเพิ่มแรงจูงใจด้านการส่งออก โดยในปีที่แล้วเศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวที่ระดับ 6.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี เนื่องจากผู้บริโภคในสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรปปรับลดการใช้จ่าย
"ทิศทางความเคลื่อนไหวในภาคอุตสาหกรรมยังเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากวิกฤตการณ์ต่างๆกำลังเลวร้ายลง และแม้ว่ารัฐบาลจะออกเงินช่วยเหลือ แต่เราจะยังคงต้องปลดพนักงานลงอีก หากเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังไม่ดีขึ้น"
หลายประเทศในเอเชียที่พึ่งภาคอุตสาหกรรมการส่งออกในการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานต่างประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายลดหย่อนภาษี โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยกระตุ้นภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนประกาศว่า รัฐบาลจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนมากขึ้นในปีนี้ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจโตได้ตามเป้าและให้ความคุ้มครองตลาดแรงงาน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2552 ยอดส่งออกสินค้าประเภทสิ่งทอของเวียดนามร่วงลง 12% แตะที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมคาดว่า ยอดส่งออกสิ่งทอไปยังสหรัฐตกลง 15% ในปีนี้