คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)มีมติให้เรียกเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมอีกหลังเที่ยงคืนวันนี้ โดยให้เก็บจากเบนซิน 91, แก๊สโซฮอลล์ 91 และ 95 ลิตรละ 70 สตางค์ ส่วนดีเซล B2 ลิตรละ 40 สตางค์ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ เนื่องจากทิศทางราคาในตลาดโลกปรับลดลง
"กบง.เห็นชอบการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นลิตรละ 0.70 บาท/ลิตร(ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ E85) และดีเซล B2 ลิตรละ 0.40 บาท/ลิตร เพื่อลดภาระการชดเชยภาษีสรรพสามิตน้ำมัน มีผลตั้งแต่ 6 มี.ค.นี้...ในส่วนเบนซิน 91 แม้ว่าเก็บภาษีสรรพสามิตครบแล้ว แต่เนื่องจากค่าการตลาดยังอยู่ในระดับสูง" นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าว
รมว.พลังงาน กล่าวว่า การปรับเพิ่มอัตราเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อการขึ้นของราคาขายปลีกของราคาน้ำมัน เนื่องจากได้มีการบริหารจัดการด้วยการนำไปหักกับค่าการตลาดที่ผู้ค้าน้ำมันควรจะปรับลดราคาลงโดยที่ค่าการตลาดของผู้ค้า ณ วันที่ 5 มี.ค. ดังนี้ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 2.22 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 2.27 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.03 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 2.33 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B2 อยู่ที่ 1.84 บาทต่อลิตร
โดยการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ แก๊สโซฮอล์ 95 จากเดิมเรียกเก็บ 0.87 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1.57 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 จากเดิมเรียกเก็บ 0.27 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 0.97 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ E20 จากเดิมชดเชย 1.23 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 0.53 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B2 จากเดิมเรียกเก็บ 1.12 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1.52 บาทต่อลิตร