ผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) แสดงความสงสัยและไม่มั่นใจอย่างมากว่า จีเอ็มจะสามารถยับยั้งตัวเลขขาดทุนและจะสามารถกระตุ้นกระแสเงินสดได้เพียงพอที่จะประคับประคองกิจการให้อยู่รอดต่อไปได้หรือไม่ โดยในรายงายของผู้ตรวจสอบบัญชีระบุคำว่า "substantial doubt" หลังจากตรวจสอบฐานะทางการเงินของจีเอ็ม
ข่าวดังกล่าวได้จุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลไปทั่วโลกว่า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างจีเอ็ม อาจล้มละลาย ขณะที่จีเอ็มได้แสดงการยอมรับในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (เอสอีซี) เมื่อวานนี้ว่า กิจการของบริษัทหมิ่นเหม่ที่จะล้มละลาย และอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงการล้มละลายได้นอกเสียจากว่ารัฐบาลสหรัฐจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินมากขึ้น หรือบริษัทประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างองค์กร
จอห์น พอทโทว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายล้มละลายจาก Michigan Law School กล่าวว่า "ผมไม่สงสัยที่ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่มั่นใจในการอยู่รอดของจีเอ็ม เพราะจีเอ็มซึ่งขาดทุนอย่างหนักถึง 3.09 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว กำลังดำเนินธุรกิจด้วยเงินกู้ 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์จากรัฐบาล และกำลังดิ้นรนขอเงินกู้เพิ่มอีก 3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้อยู่รอดต่อไป หลังจากยอดขายดิ่งลงหนักสุดในรอบ 27 ปี"
"แต่การที่ผู้ตรวจสอบบัญชีออกหนังสือแสดงความกังวลในช่วงที่จีเอ็มกำลังต้องการระดมทุนเพิ่มนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่และอาจสร้างแรงกดดันให้แก่จีเอ็ม การที่บริษัทใดได้รับการประเมินผลจากผู้ตรวจสอบบัญชีเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าสถานะการเงินของบริษัทนั้นกำลังตึงตัวอย่างหนักและมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องยื่นล้มละลาย" พอทโทว์กล่าว
วุฒิสมาชิกชาร์ลส์ แกรสลีย์ หนึ่งในคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐกล่าวว่า การที่ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความกังวลต่อสถานะทางการเงินของจีเอ็ม อาจทำให้รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่จีเอ็มมากขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มผู้ถือหุ้นของจีเอ็มหาทางเจรจารอบนอกกับรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายเรย์ ยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของจีเอ็มกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จีเอ็มสามารถปรับโครงการองค์กรได้ตามเป้าหมายโดยไม่ต้องยื่นล้มละลาย
ข่าวที่ว่าผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความวิตกกังวลต่อสถานะทางการเงินของจีเอ็มจนนำไปสู่กระแสคาดการณ์ที่ว่าจีเอ็มจะล้มละลาย ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลง 281.40 จุด หรือ 4.09% แตะที่ 6,594.44 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อคืนนี้ สำนักข่าวเอพีรายงาน