แมทเทล บริษัทผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ระดับโลกได้ฤกษ์เปิดร้านตุ๊กตาบาร์บี้ที่นครเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ โดยหวังเลี่ยงภาวะดีมานด์ในสหรัฐและยุโรปที่ชะลอตัวจนทำให้กำไรไตรมาส 4 ปี 2551 ร่วงลง 46%
อาคาร 6 ชั้นบนถนนสายแฟชั่น หัวไห่ ในนครเซี่ยงไฮ้ คือสถานที่วางจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับตุ๊กตาบาร์บี้ทั้งหมด นับตั้งแต่ชุดเสื้อผ้าที่ออกแบบโดยแพทริเซีย ฟิลด์ ผู้สร้างกระแสแฟชั่นยอดฮิตในเซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้ ไปจนถึงเครื่องสำอางค์ประทินโฉม
สาวน้อยชาวจีนวัย 11 ปีผู้หนึ่งซึ่งมีตุ๊กตาบาร์บี้ในครอบครองถึง 14 ตัวกล่าวกับทางบลูมเบิร์กว่า "บาร์บี้เป็นตุ๊กตาที่น่ารักและมีเสน่ห์ ฉันชอบเสื้อผ้าและรองเท้าของบาร์บี้ "
ริชาร์ด ดิกสัน ผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ตุ๊กตาบาร์บี้เปิดเผยว่า แมทเทลกำลังจับตาการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน และหวังให้ร้านค้าแห่งนี้เป็นสถานที่แห่งแรกในการรุกเข้าตีตลาดจีนและต่างประเทศ หลังบริษัทประสบปัญหากำไรตกต่ำจากบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลของสหรัฐที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี
โดยในปี 2551 ยอดค้าปลีกของจีนขยายตัวอย่างน้อย 19% ในแต่ละเดือนและพุ่งสูงสุดที่ 23.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปี ขณะที่ปีนี้รัฐบาลจีนได้ทุ่มเงิน 4 ล้านล้านหยวน (5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรักษาระดับการขยายตัวและช่วยให้ภาคส่งออกรอดพ้นจากมรสุมเศรษฐกิจตกต่ำ
ด้านนักวิเคราะห์จาก China Market Research Group กล่าวว่า แมทเทลหวังที่จะโกยกำไรการเปิดร้านบาร์บี้ที่ประเทศจีนเพื่อชดเชยยอดขายที่ตกต่ำในสหรัฐ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการแก้เกมที่ชาญฉลาด เนื่องจากผู้บริโภคในจีนมีจำนวนมากขณะที่ลูกค้าในสหรัฐกำลังเผชิญความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าของแมทเทลในสหรัฐมีสัดส่วน 51% ขณะที่ยอดขายในยุโรปอยู่ที่ 26% ส่วนยอดขาย 4% นั้นมาจากเอเชียและในแต่ละปีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตุ๊กตาบาร์บี้สามารถทำยอดขายให้บริษัทได้ราว 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ