ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการเงินสหรัฐ และหลังจากมีข่าวว่าบริษัท เมิร์ค ประกาศเทคโอเวอร์บริษัท เชอริ่ง-พลาว มูลค่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 79.89 จุด หรือ 1.21% แตะที่ 6,547.05 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 6.85 จุด หรือ 1.00% แตะที่ 676.53 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 25.21 จุด หรือ 1.95% แตะ 1,268.64 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนตอบรับกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปคจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกในการประชุมวันที่ 15 มี.ค.นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่ง 1.55 ดอลลาร์ แตะที่ 47.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนเม.ย.ดีดขึ้นแตะระดับ 1.3351 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนเม.ย.ลดลง 1.4 เซนต์ ปิดที่ 1.2294 ดอลลาร์/แกลลอน
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลดอลลาร์ที่พุ่งขึ้นและตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ยังอยู่ในช่วงขาลง นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากมีข่าวว่ากองทุน ETF ลดสัดส่วนการถือครองสัญญาทองคำ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 918.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 24.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 912.70-942.80 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงและภาคการธนาคารตกอยู่ในภาวะผันผวนอย่างหนัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 98.780 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 98.370 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1591 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1606 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2600 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2640 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.3780 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4077 ดอลลาร์/ปอนด์