สำนักงานบริการด้านการเงินญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการกำกับดูแลด้านการเงิน เตรียมตรวจสอบธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคุมเข้มด้านการปล่อยเงินกู้ที่อาจจะนำไปสู่การล้มละลายของบริษัทต่างๆมากขึ้น โดยแบงค์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่สำนักงานฯจะไปตรวจเยี่ยม ได้แก่ ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป
ทั้งนี้ สำนักงานฯจะเข้าไปตรวจสอบประวัติการดำเนินงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีการปล่อยสินเชื่อ และไม่มีการบีบให้ผู้กู้ต้องชำระหนี้เร็วเกินไป ขณะที่เศรษฐกิจถดถอยมากยิ่งขึ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า ชินอิชิ อินะ นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี กล่าวว่า มาตรการใหม่ๆที่นำมาใช้ประกอบด้วยขั้นตอนที่เข้มงวด ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการป้องกันไม่ให้เกิดการล้มละลายมากขึ้น
บริษัทแปซิฟิค โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์และเป็นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่นที่ล้มละลายในปีนี้ ระบุว่า บริษัทไม่สามารถระดมทุนได้ จึงต้องยื่นขอคุ้มครองสินทรัพย์จากการล้มละลายเมื่อวานนี้ ขณะที่รัฐบาลก็กำลังหาทางช่วย ด้วยการเข้าซื้อหุ้นที่ธนาคารต่างๆถืออยู่ และเข้าถือครองสัดส่วนในสถาบันการเงินผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อเพิ่มยอดเงินกู้
สำนักงานฯซึ่งจะตรวจสอบการดำเนินงานของธนาคารต่างๆเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นไปนั้น ระบุว่า อาจจะลงโทษแบงค์ที่ยกเลิกการปล่อยกู้แบบไม่ปราณีปราศรัย
ทากาชิ ทาเกอูชิ โฆษกของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ กล่าวถึงแผนการตรวจสอบดังกล่าวว่า การจัดหาเงินทุนสำหรับบริษัทเอกชนนั้นเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุดในด้านสังคม เราต้องการจัดหาเงินทุนให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และธนาคารก็ใส่ใจกับความต้องการที่มีความหลากหลายของลูกค้าเหล่านี้
นอกจากญี่ปุ่นแล้ว รัฐบาลจีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และฮ่องกงก็ได้ใช้มาตรการต่างๆเพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะมีการปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทเอกชนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยในจีนนั้น แบงค์ต่างๆก็ได้ขยายวงเงินปล่อยกู้ครั้งใหม่จำนวนมหาศาลเมื่อเดือนม.ค. หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาผลักดันให้ธนาคารให้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ