นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า การผลิตอุตสาหกรรมอาหาร เดือน ม.ค.52 ติดลบ 16.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุด นับตั้งมีการทำดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในปี 43 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ความต้องการสินค้าอาหาร ทั้งภายในประเทศและตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่การส่งออกอาหารของไทยในเดือน ม.ค.52 มีปริมาณ 1.7 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.6% ส่วนมูลค่าการส่งออกอาหาร ม.ค.52 มีมูลค่า 49,735 ล้านบาท ลดลง 13.1% เป็นการปรับตัวลดลงในทุกตลาดส่งออก
สำหรับภาพรวมการส่งออกอาหารทั้งปี 52 นี้ คาดว่าจะมีมูลค่า 661,000 ล้านบาท ลดลง 15% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกทำให้ความต้องการอาหารทั่วโลกปรับตัวลดลงตาม จึงต้องการเรียกร้องให้รัฐบาล และภาคเอกชน เร่งผลักดันการจำหน่ายสินค้าตลาดในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น โดยการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกข้าวของไทยในปีนี้ อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ 8.5-9 ล้านตัน เนื่องจาก H2/52 ประเทศอินเดียได้ประกาศจะกลับมาส่งออกข้าวในโควตาประมาณ 2 ล้านตัน โดยจะทำให้มีข้าวเข้ามาสู่ตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของข้าวไทยได้ในอนาคต
นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ยอดการส่งออกข้าวไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค.-6มี.ค.52 มีปริมาณ 1,440,000 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37% ที่มีการส่งออกข้าว 2,200,000 ตัน ขณะนี้มูลค่าลดลง 20% เนื่องจากความต้องการข้าวในตลาดโลกที่ลดน้อยลง และราคาข้าวของไทยสูงกว่าประเทศเวียดนาม โดยราคาข้าวของไทยอยู่ที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ส่วนข้าวเวียดนามอยู่ที่ 430 ดอลลาร์/ตัน
ทั้งนี้สถาบันอาหารคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 52 จะติดลบที่ 2% จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ และจะส่งผลให้การส่งออกลดลงประมาณ 8% การใช้กำลังการผลิตโดยรวม จะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงการว่างงาน เพิ่มขึ้น 800,000-1 ล้านคน คิดเป็น 2.1-2.6% ของกำลังแรงงานทั่วประเทศ ส่วนค่าเงินบาท คาดว่าจะอ่อนตัวอยู่ที่ระดับ 37-38 บาท/ดอลลาร์ ในช่วง Q4/52