ญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนม.ค. 2552 ว่า ร่วงลง 3.2% จากยอดเดือนธ.ค. นับเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และยังเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงยาวนานที่สุดในรอบอย่างน้อย 20 ปี เนื่องจากการส่งออกที่หดตัวและกำไรที่เหือดหาย ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นจะตกลงไป 4.8%
-- ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียขยับลดลงเล็กน้อยในเดือนนี้หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในเดือนม.ค.และก.พ. เนื่องจากภาคครัวเรือนเริ่มมีมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเวสแพค แบงกิ้ง คอร์ป และสถาบันเมลเบิร์นซึ่งที่ได้จากการสอบถามผู้บริโภค 1,200 รายในระหว่างวันที่ 2-8 มี.ค.นั้นปรับตัวลดลง 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 85.8 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 จุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2551 ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีมุมมองในแง่ลบมากกว่าในแง่บวก
-- เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในที่ประชุมสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรุงวอชิงตันว่า รัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้อง "ยกเครื่อง" ระบบการกำกับดูแลด้านการเงินภายในประเทศ เพื่อเสริมสร้างสถานะของธนาคารพาณิชย์ กองทุนรวม และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ให้สามารถอยู่รอดได้ในช่วงที่เศรษฐกิจทรุดตัวลง
-- กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในทิเบต โดยได้เรียกร้องให้จีนทบทวนนโนบายการปกครองในทิเบตที่อาจสร้างความตึงเครียดและส่งผลกระทบรุนแรงด้านศาสนาและวัฒนธรรมในภูมิภาค
-- ทนายของนายเบอร์นาร์ด มาดอฟ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้นนาสแดคผู้ก่อคดีอื้อฉาวระดับโลกด้วยการจัดตั้งกองทุนแชร์ลูกโซ่ผิดกฎหมายเปิดเผยว่า นายมาดอฟจะยอมสารภาพผิดในข้อหาฟอกเงิน ฉ้อโกง และให้การเท็จในศาลสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะทำให้เขาถูกตัดสินจำคุกถึง 150 ปี
-- สำนักงานบริการด้านการเงินญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการกำกับดูแลด้านการเงิน เตรียมตรวจสอบธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคุมเข้มด้านการปล่อยเงินกู้ที่อาจจะนำไปสู่การล้มละลายของบริษัทต่างๆมากขึ้น โดยแบงค์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่สำนักงานฯจะไปตรวจเยี่ยม ได้แก่ ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป
ทั้งนี้ สำนักงานฯจะเข้าไปตรวจสอบประวัติการดำเนินงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีการปล่อยสินเชื่อ และไม่มีการบีบให้ผู้กู้ต้องชำระหนี้เร็วเกินไป ขณะที่เศรษฐกิจถดถอยมากยิ่งขึ้น
-- โพลล์สำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาชี้ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังได้รับคะแนนสนับสนุนในระดับที่สูงอยู่ แม้ว่าจะไม่สูงเท่าช่วงที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ก็ถือว่าสูงกว่าคะแนนสนับสนุนประธานาธิบดีคนก่อนๆหน้านี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาในการเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ 50 วันแรก โดยโอบามาได้คะแนนสนับสนุนล่าสุด 61% ขณะที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้คะแนนสนับสนุนที่ 58% ในช่วง 50 วันแรก อดีตประธานาธิบดีบุชผู้ก่อ 56% อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ได้ไป 53% และอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนที่ 60%