คลังระบุหนี้สาธารณะปี 52-53 ไม่เกินกรอบวินัย แม้ขาดดุลงบประมาณสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 11, 2009 17:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจถึงแนวโน้มหนี้สาธารณะคงค้างและภาระหนี้ต่องบประมาณ โดยคาดว่าในปีงบประมาณ 52 จะมีหนี้สาธารณะคงค้างประมาณ 4,063 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 43.34% ของ GDP และเพิ่มขึ้นเป็น 4,460 พันล้านบาทในปีงบประมาณ 53 หรือคิดเป็น 45.31% ของ GDP

ทั้งนี้ เป็นผลจากการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจจากแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนและแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะปานกลาง โดยอัตราส่วน Debt/GDP ยังคงอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดให้ไม่เกิน 50% และภาระหนี้ต่องบประมาณไม่เกิน 50%

"หนี้สาธารณะของเราเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ยืนยันว่าเรายังบริหารจัดการให้อยู่ในกรอบวินัย และยังมีสัดส่วนต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แต่เราจะติดตามใกล้ชิด โดยเฉพาะถ้าเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรงและกระทบกับการจัดเก็บรายได้ หนี้สาธารณะจะสูงขึ้นค่อนข้างเร็ว รัฐบาลจะบริหารจัดการและติดตามอย่างใกล้ชิด" นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อเปรียบเทียบหนี้สาธารณะต่อ GDP ของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกลุ่มประเทศเกิดใหม่รวม 18 ประเทศ พบว่า ญี่ปุ่น มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP 194.2%, สหรัฐอเมริกา 63.4%, สหราชอาณาจักร 42.9%, อินเดีย 69.8%, มาเลเซีย 42.7% และเวียดนาม 38.6% เป็นต้น

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยังได้รายงานภาวะสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ในเดือนม.ค.52 ซึ่งแม้สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์จะชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แต่ยังถือว่าไม่มากนัก เพราะต้องเข้าใจว่าขณะนี้ความต้องการสินเชื่อภาคเอกชนชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจ

"การขยายตัวของสินเชื่อ ยังบ่งบอกว่าไม่มีปัญหารุนแรง แต่เรื่องนี้จะตามต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการประเมินความเสี่ยงของระบบธนาคารเองว่าจะปล่อยสินเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน เพราะจริงๆ แล้วจะติดอยู่แค่ตรงนี้เอง ส่วนในแง่ความแข็งแกร่งของระบบยังมีอยู่เต็มที่" นายกรัฐมนตรี ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ