ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่าธนาคารสามารถทำกำไรได้ในเดือนม.ค.-ก.พ. ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการเงิน โดยก่อนหน้านี้ผู้บริหารซิตี้กรุ๊ปได้ออกมาสร้างความฮือฮาให้กับตลาดด้วยการประกาศว่าธนาคารสามารถทำกำไรในเดือนม.ค.-ก.พ.เช่นกัน
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 3.91 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 6,930.40 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.76 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 721.36 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.36 จุด หรือ 0.98% แตะ 1,371.64 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาด และนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 15 มี.ค.นี้หรือไม่
โดยสัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 45.35-42.33 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากจีนและญี่ปุ่นเปิดเผยยอดเกินดุลการค้าที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่เกิดขึ้นในจีนและญี่ปุ่นอาจส่งผลกระทบต่อสหรัฐด้วย
โดยค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2849 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.2670 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.3869 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.3746 ดอลลาร์/ปอนด์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากจีนและญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลการค้าที่ย่ำแย่ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากภาวะการซื้อขายที่ผันผวนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก
โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 910.70 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 14.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 892.60-913.80 ดอลลาร์
--- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค หลังจากบริษัท อินเตอร์เนชันแนล เพาเวอร์ ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ช่วยจำกัดการร่วงลงของตลาดเอาไว้ได้
โดยดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 21.42 จุด แตะที่ 3,693.81 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,652.01-3,763.24 จุด