ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลฟรังค์สวิสและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางสวิสจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินฟรังค์ หลังจากธนาคารกลางประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแม้อังกฤษเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1841 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.1534 ฟรังค์/ดอลลาร์ และขยับขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 97.580 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 97.200 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.2924 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2827 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ขยับขึ้นแตะระดับ 1.3949 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.3860 ดอลลาร์/ปอนด์
ดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้นแตะระดับ 0.6538 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6497 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5202 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5115 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิส หลังจากธนาคารกลางสวิสมีมติลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% จากระดับ 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยธนาคารกลางลดดอกเบี้ยแล้วทั้งสิ้น 2.25% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ธนาคารกลางสวิสประกาศว่าพร้อมเข้าซื้อพันธบัตรหรือแทรกแซงตลาดเพื่อให้เงินฟรังก์สวิสอ่อนค่าลง
โธมัส จอร์แดน สมาชิกบอร์ดบริหารของธนาคารกลางกล่าวว่า เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์ถดถอยลงอย่างรวดเร็วเกินคาด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ยูบีเอส เอจี ธนาคารใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ต้องขาดทุนกว่า 2.09 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีที่ผ่านมา และเผยว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้ก็ยังน่าเป็นห่วงมาก
ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแม้ในระหว่างวันถูกกดดันอย่างหนักจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงรายงานของ RICS ที่ระบุว่า อัตราการซื้อขายบ้านของนายหน้าในอังกฤษช่วงไตรมาสที่สิ้นสุด ณ เดือนก.พ.ลดลงแตะ 9.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่ดัชนีราคาบ้านในเดือนที่แล้วร่วงลงอยู่ในระดับ -78.3 จุด จากระดับ -76.6 จุดเมื่อเดือนม.ค.
วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในยุโรปและอังกฤษส่งผลให้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในวันเดียวกับที่ธนาคารกลางยุโรปมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.50% เนื่องจากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับลดครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีพ.ศ.2551