นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ บลจ.เอ็มเอฟซี(MFC)กล่าวสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งหาแหล่งรายได้เข้ามาชดเชยการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 52 ที่จะเป็นงบขาดดุลสูงกว่า 1.4-1.5 แสนล้านบาท โดยเห็นว่าควรจะมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพิ่มขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงไปมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับความกังวลเกี่ยวกับฐานะการคลังของรัฐบาลนั้น นายณรงค์ชัย เห็นว่า การคลังของประเทศยังแข็งแรงไม่น่าจะเกิดปัญหา ส่วนกรณีที่รัฐจะมีการใช้จ่ายและมีแผนกู้เงินในต่างประเทศก็สามารถทำได้ในอนาคตที่วิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตสถาบันการเงินในต่างประเทศคลี่คลายลง ซึ่งปัจจุบันถือว่าคลี่คลายลงมาก
นายณรงค์ชัย ยังแนะนำให้รัฐบาลผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้แก่ภาคเอกชนเพื่อให้เกิดการลงทุนในอนาคต ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ต่ำกว่าเงินฝาก 14% และมีสภาพคล่องคงเหลือเกือบ 5 แสนล้านบาทถือว่ามีจำนวนมากเกินไป
โดยส่วนตัวเข้าใจว่าธนาคารพาณิชย์กังวลเรื่องความเสี่ยงเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนั้น รัฐควรหาวิธีการที่จะผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ ส่วนนโยบายการเงินที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันแม้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เพราะส่วนต่างระหว่างเงินกู้กับเงินฝากก็ยังสูงอยู่
นายณรงค์ชัย กล่าวอีกว่า การติดลบของจีดีพีไม่ใช่ประเด็นที่รัฐบาลจะต้องคำนึงมากนัก แต่ควรให้ความสำคัญกับการผลักดันให้เกิดการลงทุนในอนาคต และเร่งให้มีการใช้จ่ายในโครงการภาครัฐ ใช้ทรัพย์สินของภาครัฐให้เกิดประโยชน์ เช่น ทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ เป็นต้น