วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนเจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์มองว่า โอกาสในการเทคโอเวอร์กิจการของบริษัทต่างๆในสหรัฐกำลังมาถึงแล้ว หลังจากที่เมื่อปีก่อนตนต้องใช้เวลาเดินทางทัวร์ยุโรปเพื่อเสาะหาเป้าหมายในการซื้อกิจการและบริษัทใหม่ๆ
บัฟเฟตต์กล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายทำให้บริษัทหลายรายมีรายได้ลดลง ขณะที่มูลค่าการทำธุรกรรมหดตัว และบรรยากาศการแข่งขันในการเสนอข้อตกลงซื้อกิจการเริ่มคลายความดุเดือดลง ทำให้บริษัทไม่ต้องเสียเวลาออกไปหาโอกาสในการควบรวมกิจการกับบริษัทต่างประเทศอีกต่อไปแล้ว
ทั้งนี้ บัฟเฟตต์ ได้เดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สเปน อิตาลี เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อหาโอกาสในการควบรวมกิจการในประเทศดังกล่าว ขณะที่บริษัทคู่แข่งได้ปรับลดเงินทุนการเสนอข้อตกลงซื้อกิจการหลังประสบปัญหาวิกฤตสินเชื่อและมูลค่าตลาดหุ้นตกต่ำกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้มหาเศรษฐีนักลงทุนวัย 78 ปี สามารถใช้เงินสดจำนวน 2.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเบิร์กเชียมากว้านซื้อบริษัทที่ต้องการได้ในราคาถูก
โดยเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว บัฟเฟตต์ ได้ซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ของ Dow Chemical Co มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยเพิ่มเม็ดเงินทุนสำหรับการยื่นข้อตกลงเทคโอเวอร์กิจการของ Rohm & Haas Co ที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับบริษัท 8.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ของบริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก โค (จีอี) และโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ปมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์แลกกับการขายหุ้นของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล, และโคโนโคฟิลลิปส์ที่เบิร์กเชียร์ถือครองอยู่