นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองที่ให้ประกาศพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษนั้น เป็นอำนาจการตัดสินใจของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมกัน ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ โดยจะนำข้อเสนอจากทั้ง 2 ฝ่ายให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาตัดสิน
วันนี้นายชาญชัย นำคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ตรวจเยี่ยมชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดระยองที่มีทั้งกลุ่มสนับสนุนและคัดค้านให้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ โดยกล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่างมี 4 ข้อเสนอจากสนับสนุนและคัดค้าน
ข้อเสนอต่าง ๆ ได้แก่ รัฐบาลสามารถดำเนินการแก้ไขการดูแลกำจัดกากพิษอุตสาหกรรม ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะให้เจ้าหน้าที่ กนอ.เข้ามาดูแลร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด การสร้างห้องแล็บทดสอบระดับสารพิษต่าง ๆ ได้มอบหมายให้ประธาน กนอ.รับไปดำเนินการ การสร้างศูนย์สุขภาพ จะมีการประสานกับ รมว.สาธารณสุขเข้ามาช่วยเหลือ และ ให้ความรู้แก่ประชาชนและเยาวชนในการป้องกันปัญหามลพิษ ซึ่งมอบหมายให้ กนอ.ดำเนินการ
ด้านนายรัชยุทธ วงศ์ภุชชงค์ ประธานชุมชนซอยร่วมพัฒนา ซึ่งเป็นกลุ่มยื่นเรื่องให้ศาลปกครองระยองพิพากษาให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ ประกาศให้มาบตาพุดเป็นพื้นที่ควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ทางกลุ่มจะติดตามท่าทีของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ ว่าจะยื่นอุธรณ์หรือไม่ โดยได้มีแผนเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ หากมีการอุทธรณ์ก็จะยื่นร้องต่อศาลปกครองขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวทันที เพื่อให้การประกาศเขตควบคุมมลพิษสามารถดำเนินการได้ใน 60 วันตามที่ศาลปกครองระยองพิพากษา
ขณะเดียวกัน จะเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้เห็นความสำคัญของชีวิตประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่เห็นแก่ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจอย่างเดียว
นายสมเกียรติ เจริญทรัพย์ ประธานชุมชนคลองน้ำหู กล่าวว่า เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลปกครองที่ประกาศให้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นเขตควบคุมมลพิษ เพราะเป็นสิ่งที่ 31 ชุมชนเรียกร้องมานานแล้ว เนื่องจากการตั้งโรงงานในพื้นที่ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก ทั้งการขาดแคลนทรัพยากรโดยเฉพาะน้ำ รวมถึงปัญหามลพิษที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้บางคนป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งทางกลุ่มจะนำผลกระทบที่เกิดขึ้น เสนอต่อ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป