บีเอ็มดับเบิลยู, เฟียต และบริษัทรถอีกหลายรายที่รับเงินช่วยเหลือมูลค่า 3 พันล้านยูโร (3.8 พันล้านดอลลาร์) จากธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรปเมื่อวานนี้ อาจประสบปัญหาในการนำเงินดังกล่าวไปใช้กู้ฐานะทางการเงินของบริษัท
เนื่องจากธนาคารเพื่อการลงทุนกำหนดไว้ว่า เงินจำนวนดังกล่าวต้องใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมและรถยนต์ประหยัดพลังงาน และไม่สามารถใช้เพื่อกู้วิกฤตการเงินของบริษัทได้
ธนาคารคาลิยงของฝรั่งเศสและสมาคมอุตสาหกรรม ACEA คาดการณ์ว่า บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ 7 แห่งในยุโรปอาจต้องการเงินสดกว่า 1.5 หมื่นล้านยูโรในปีนี้ ในขณะที่ยอดขายอาจลดลงกว่า 20%
จนถึงตอนนี้ พีเอสเอ เปอโยต์ ซีตรอง และ เรโนลท์ เอสเอ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศส รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลมากที่สุดถึง 6 พันล้านยูโร ส่วนจีเอ็ม มอเตอร์ คอร์ป กำลังเจรจากับหลายประเทศในยุโรปเพื่อกู้เงินมากู้กิจการโอเปิล บริษัทในเครือที่กำลังขาดทุนอย่างหนัก
"หากผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ พวกเขาคงไม่สามารถจ่ายเงินเดือนหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆได้ และทุกอย่างต้องหยุดชะงักลงในที่สุด" ปีเตอร์ ชมิดท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ออโตโมทีฟ อินดัสทรี ดาต้า กล่าว "ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้นแล้วอุตสาหกรรมยานยนต์จะล่มสลายแทบทั้งหมด"
บริษัทที่ได้รับเงินช่วยเหลือสูงสุด 400 ล้านยูโรต่อปีต่อบริษัท ประกอบด้วย บีเอ็มดับเบิลยู, เฟียต, เปอโยต์, เรโนลท์, เดมเลอร์, วอลโว่ และ สแกเนีย
โดยวอลโว่ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฟอร์ดจะต้องนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการวิจัยเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ส่วนเรโนลท์ต้องนำเงินไปใช้ในการศึกษาวิจัยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน