เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) หลังจากดาวโจนส์ปิดเคลื่อนไหวในแดนบวก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้จุดประกายให้นักลงทุนปลีกตัวออกนอกตลาดเงิน และหันไปซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในตลาดหุ้นมากขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.2922 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2909 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ขยับขึ้นแตะระดับ 1.3988 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.3933 ดอลลาร์/ปอนด์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1854 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1861 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ขยับขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 97.980 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 97.760 เยน/ดอลลาร์
ดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้นแตะระดับ 0.6572 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6561 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5239 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5219 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เทรดเดอร์เริ่มเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในตลาดหุ้นมากขึ้น หลังมีสัญญาณชี้นำทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาเหลือ 3.60 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากยอดน้ำมันโดยเฉพาะน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
ขณะที่เดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนก็ไต่ระดับขึ้นสู่ 56.6 จุดในเดือนมี.ค.จากระดับ 56.3 จุด ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้