นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับกับผู้สื่อข่าวอังกฤษว่า เศรษฐกิจของไทยอาจจะไม่เห็นการเติบโตในทางบวกจนกว่าจะถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งล่าช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า แต่ทั้งนี้รัฐบาลไทยเชื่อว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลผ่าน ออกมาจะสามารถเสริมอำนาจการซื้อของประชาชนและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยหวังว่าสถานการณ์จะพลิกกลับมาได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี
นายกรัฐมนตรี ยังหวังว่ารัฐสภาไทยจะอนุมัติแผนการกู้เงินจากต่างประเทศจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อที่รัฐบาลจะได้เริ่มเจรจาการกู้เงินดังกล่าวเพื่อนำมาใช้ลงทุนพัฒนาสาธารณูปโภคขนาดใหญ่(เมกะโปรเจ็กท์) ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยหวังว่าจะได้รับเงินก้อนนี้ก่อนไตรมาสที่ 3 ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวจะมีแหล่งที่มาจากธนาคารโลก (เวิล์ดแบงก์) ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า)