นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาแนวทางการขยายเพดานการก่อหนี้ หลังจากที่รัฐบาลอาจมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 52 และปีงบประมาณ 53 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ได้รับผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจในระดับโลก
"ปีงบประมาณ 52 การกู้เงินของรัฐบาลใกล้เต็มเพดานการกู้เงินแล้ว ส่วนปีงบประมาณ 53 ยังไม่ได้ใช้งบประมาณ เรายังไม่รู้ว่าจะมีการกู้เงินอีกมากน้อยแค่ไหน...เรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะถ้าจะทำต้องให้เกิดความรอบคอบ ขอเวลาศึกษาก่อน"นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า ยังไม่ความชัดเจนว่าจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายฉบับใด หรือจะต้องออกกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อรองรับแนวทางดังกล่าวหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องอ่อนไหว ดังนั้น การดำเนินการต้องทำให้เกิดความรอบคอบและให้เป็นที่ยอมรับได้
อนึ่ง กรอบการกู้เงินของรัฐบาล หนดให้กู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 20% ของงบประมาณรายจ่ายในแต่ละปี วงเงินการค้ำประกันให้กับรัฐวิสาหกิจต้องไม่เกิน 20% ของงบประมาณรายจ่ายในแต่ละปี กรอบกู้เงินจากต่างประเทศเข้ามาใช้ในโครงการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ไม่เกิน 10% วงเงินงบประมาณรายจ่าย
ขณะที่กรอบความยั่งยืนทางการคลัง กำหนดให้การขาดดุลงบประมาณจะต้องไม่เกิน 2.5% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ(GDP) สัดส่วนหนี้สาธารณะไม่เกิน 50% ของ GDP และ ภาระหนี้ต่องบประมาณไม่เกิน 15%