สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและฟรังค์ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นผ่านทางรายการโทรทัศน์ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจะสิ้นสุดลงในปีนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 922.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 8.10 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 930.60-915.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 12.89 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 32.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 8.25 เซนต์ ปิดที่ 1.7470 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,049.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 14.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ปิดที่ 200.25 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 25.00 ดอลลาร์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและฟรังค์ หลังจากเบอร์นันเก้กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ทางสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐจะสิ้นสุดลงในปีนี้หากรัฐบาลประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาระบบการธนาคาร ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะเห็นประธานเฟดให้สัมภาษณ์เพื่อแสดงความคิดเห็นผ่านทางสื่อ โดยนักวิเคราะห์มองว่าการที่เบอร์นันเก้ตัดสินใจให้สัมภาษณ์ทางรายการ 60 Minutes ครั้งนี้อาจเป็นเพราะเบอร์นันเก้ต้องการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับชาวอเมริกัน
นอกจากนี้ เฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยว่าดัชนี Empire State Factory Index ซึ่งเป็นดัชนีสำรวจภาคการผลิตร่วงแตะ -38.23 จุดในเดือนมี.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และดิ่งลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ -32.00 จุด