ที่ปรึกษาระดับสูงด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐกล่าวว่า การปล่อยให้บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ต้องล้มละลายนั้น ไม่ใช่เป้าหมายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำว่า รัฐบาลเองไม่สามารถแก้ปัญหาในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ทั่วทุกจุด
สตีเวน แรทเนอร์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านยานยนต์ของกระทรวงคลังสหรัฐกล่าวว่า ภารกิจสำคัญของเราคือต้องพยายามผลักดันการปรับโครงสร้างบริษัทรถยนต์ให้ประสบความสำเร็จ ในระหว่างที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่เลวร้าย
"การปล่อยให้ค่ายรถล้มละลายไม่ใช่เป้าหมายของเรา และเรื่องดังกล่าวไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องมุ่งเน้นที่การแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้บริษัทล้มละลายไปต่อหน้าต่อตา" แรทเนอร์กล่าว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า จีเอ็มและไครสเลอร์ได้รับเงินกู้จากรัฐบาลรวมกันทั้งสิ้น 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้ภายใต้เงื่อนไขของรัฐบาลที่กำหนดเส้นตายให้ทั้งสองบริษัทปรับโครงสร้างองค์กรให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้
ขณะเดียวกัน จีเอ็มกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ถือพันธบัตรเพื่อหวังที่จะลดหนี้สินลง 2 ใน 3 ของจำนวนหนี้สินทั้งหมด ซึ่งแรทเนอร์หวังว่า ผู้ถือหุ้นทุกรายจะตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์ดังกล่าวและให้ความร่วมมือในการเสียสละเพื่อช่วยเหลือบริษัท
"ผู้ถือหุ้นทุกคนล้วนต้องการให้สถานการณ์ต่างๆคลี่คลายไปได้ด้วยดี ซึ่งลึกๆแล้วทุกคนต่างคิดว่ารัฐบาลสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น และผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นนั่นแหละที่จะช่วยให้บริษัทอยู่รอดต่อไปได้" แรทเนอร์กล่าวทิ้งท้าย