ปีเตอร์ แซนส์ ซีอีโอธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ระบุว่า ธนาคารมีผลประกอบการที่ "แข็งแกร่ง" ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่มีแผนปลดพนักงานและจะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตในเชิงรุก ด้วยการเข้าซื้อกิจการธนาคารในเอเชียและตะวันออกกลาง และแสดงความเชื่อมั่นในสถานะเงินทุนของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดเป็นสถาบันการเงินรายล่าสุดที่ออกมาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน และแบงค์ ออฟ อเมริกา ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าธนาคารสามารถทำกำไรได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปี นี้และสามารถฟันฝ่าวิกฤตการณ์การเงินโลกในขณะนี้ได้
ก่อนหน้านี้ แบงค์ ออฟ อเมริกา และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ระบุว่า ธนาคารทั้งสองสามารถทำกำไรได้ในเดือนม.ค.-ก.พ. ซึ่งการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป เชื่อมั่นว่า ซิตี้กรุ๊ปจะสามารถทำกำไรได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่ธนาคารสามารถทำกำไรได้ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.-ก.พ.
ซีอีโอสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดเปิดเผยว่า ผลประกอบการของธนาคารได้รับแรงหนุนจากอัตราการปล่อยกู้ที่เพิ่มขึ้น 18% แตะระดับ 1.35 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของตัวเลขกำไรในฮ่องกงและเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดยังวางแผนที่จะเปิดสาขาแห่งแรกในเวียดนามในปีนี้ โดยสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ถือหุ้นอยู่ 15% ในธนาคารเอเชีย คอมเมอร์เชียล แบงค์ ซึ่งเป็นธนาคารที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุดในตลาดหุ้นเวียดนาม
เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ประกาศระดมทุน 1.8 พันล้านปอนด์ หรือ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด อาจประสบปัญหาเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แต่ซีอีโอสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดยืนยันว่า "เราไม่ปฏิเสธเรื่องการระดมทุนใหม่ๆ แต่เรามั่นใจในสถานะเงินทุนของเราในเวลานี้เป็นอย่างยิ่ง" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน