โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% ในการประชุมคืนนี้ และคาดว่าเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดและคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะประกาศมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการเข้าซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) และหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ หลังจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดจ้างงานสหรัฐหดตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนเมื่อเดือนม.ค.
"เฟดจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากเป็น 2 เท่า หลังจากดุลบัญชีของเฟดทรุดตัวลง 17% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.ที่ระดับ 2.31 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเฟดได้นำงบประมาณในองค์กรไปใช้ในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน และดุลบัญชีที่ลดลงเกิดขึ้นแม้เบอร์นันเก้ตระหนักว่ามีความเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี" แอนดรูว์ ทิลตัน นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์
ทิลตันคาดว่า ในการประชุมเฟดคืนนี้ คณะกรรมการเฟดจะใช้มาตรการที่แข็งแกร่งเพื่อสกัดกั้นภาวะเงินฝืด ซึ่งรวมถึงการตั้งโครงการมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเข้าซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อที่อยู่อาศัย อาทิ แฟนนี เม และเฟรดดี แมค
เฟดคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวประมาณ 0.5-1.3% ในปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 0.2-1.1% และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8.5-8.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.1-7.6%
การคาดการณ์ของเฟดมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะ 8.1% ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ร่วงลง 651,000 ตำแหน่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน