ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย ขณะเงินเยนอ่อนตัวลงจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการซื้อตราสารหนี้จากภาคเอกชน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 98.550 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 98.170 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1816 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1841 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.4052 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4060 ดอลลาร์/ปอนด์ และยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3018 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2965 ดอลลาร์/ยูโร
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6621 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6593 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้นแตะระดับ 0.5302 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5301 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าตัวเลขการสร้างบ้านใหม่พุ่งขึ้น 22.2% แตะระดับ 583,000 ยูนิตในเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการสร้างบ้านใหม่จะร่วงลง 3.4% เหลือเพียง 450,000 ยูนิต
ข้อมูลสร้างบ้านที่สดใสช่วยลดแรงกดดันที่ตลาดได้รับจากข่าวที่ว่าบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ระดับโลก เตรียมลดการจ่ายเงินปันผล และบริษัทโนเกียเตรียมปลดพนักงาน 1,700 คน
ค่าเงินยูโรได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของ ZEW Center ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของยุโรปที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวลดลง
นักลงทุนจับตาดูการประชุม 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพุธที่ 18 มี.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% และคาดว่าเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะแถลงมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการเข้าซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) และหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้กลับมามีเสถียรภาพและกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค แอนดรูว์ ทิลตัน นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า "เฟดจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากเป็น 2 เท่า หลังจากดุลบัญชีของเฟดทรุดตัวลง 17% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.ที่ระดับ 2.31 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเฟดได้นำงบประมาณในองค์กรไปใช้ในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ในตลาดการเงินหลังจากมีการประเมินแล้วว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
ทิลตันคาดว่า ในการประชุมเฟดครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดจะใช้มาตรการที่แข็งแกร่งเพื่อสกัดกั้นภาวะเงินฝืด ซึ่งรวมถึงการตั้งโครงการมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเข้าซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อที่อยู่อาศัย อาทิ แฟนนี เม และเฟรดดี แมค