ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะเพิ่มปริมาณการซื้อพันธบัตรของรัฐบาล ในขณะที่นายทาโร่ อาโสะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเพิ่มการซื้อตราสารหนี้มูลค่าถึง 1.6 ล้านล้านเยน หรือ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.4 ล้านล้านเยน
เมื่อวานนี้ แบงค์ชาติญี่ปุ่นระบุว่า อาจจะจัดหาเงินกู้ถึง 1 ล้านล้านเยนให้กับธนาคารเพื่อเสริมสภาพคล่องที่หดหายไปเพราะราคาหุ้นที่ตกลง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการแบงค์ชาติญี่ปุ่นส่งสัญญาณการรับรองแผนการใช้จ่ายมากขึ้นของรัฐบาล และชี้ว่าญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินที่มีความเหมาะสม และธนาคารกลางอังกฤษเองก็ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อขยายสำรองเงินตราในระบบการเงิน ส่วนธนาคารกลางสหรัฐก็จะออกมาเปิดเผยข้อมูลโครงการที่มีลักษณะใกล้เคียงกันในวันพรุ่งนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ทาเคฮิโร่ ซาโตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า เครื่องมือดั้งเดิมที่มีอยู่แทบจะไม่สามารถใช้การได้ นโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นจึงถูกปรับให้เข้ากับนโยบายการเงินของรัฐบาลมากขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯญี่ปุ่นได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการร่างงบประมาณการใช้จ่ายใหม่เพื่อเพิ่มวงเงินให้ถึง 10 ล้านล้านเยน ตามที่ตนเองเคยให้คำมั่นไว้ตั้งแต่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลง 12.1% เมื่อไตรมาสที่ 4 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ และโซนี่ คอร์ป ก็ปลดพนักงานหลังจากที่ยอดการส่งออกสินค้าของบริษัทร่วงลง
ทั้งนี้ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้นจะช่วยป้องกันไม่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากพันธบัตรพุ่งเกินไป เนื่องจากเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความกังวลว่า รัฐบาลอาจจะขายตราสารหนี้มากขึ้น เพื่อนำเงินมาใช้ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผลตอบแทนพันะบัตร 10 ปี เมื่อวานนี้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.295% จากระดับ 1.165%