กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอานิสงส์ของอัตราการสร้างอพาร์ตเม้นท์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลดลง
โดยตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในเดือนก.พ.ถีบตัวขึ้น 22.2% จากระดับในเดือนม.ค. แตะที่ 583,000 ยูนิต ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดการสร้างสร้างบ้านใหม่จะตกลงสู่ระดับ 450,000 ยูนิต
นอกจากนี้ เมื่อแบ่งตามภูมิภาคพบว่า ทั่วทุกภูมิภาคของสหรัฐต่างรายงานตัวเลขการสร้างบ้านโดยรวมที่ปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นแถบตะวันตก ขณะที่อัตราการก่อสร้างที่อยู่อาศัยโดยรวมลดลงสู่ระดับ 477,000 ยูนิตในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ ภาวะล่มสลายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐซึ่งเคยเฟื่องฟูถึงขีดสุดนั้นได้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในประเทศ จนแทรกซึมขยายวงกว้างไปยังกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ซึ่งฉุดรั้งให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือให้เจ้าของบ้านไม่ต้องถูกยึดบ้านหลุดจำนอง หลังจากที่เมื่อปีก่อนมีชาวอเมริกันถูกยึดบ้านหลุดจำนองไปกว่า 2 ล้านคน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่ง 178.73 จุด หรือ 2.48% แตะที่ 7,395.70 จุดเมื่อคืนนี้