ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐในเดือนก.พ.ขยับขึ้น 0.1% แต่ต่ำกว่าระดับที่เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนม.ค. และเป็นสถิติที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.4% และเมื่อเทียบเป็นรายปีปรากฏว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตลดลง 1.3%
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core inflation) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานนั้นขยับขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค.
โดยตัวเลขดัชนี PPI ที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.พ.เป็นผลจากราคาพลังงานที่ไต่ระดับ 1.3% และราคาน้ำมันเบนซินที่ถีบตัวขึ้น 8.7% ในเดือนก.พ.ต่อเนื่องจากที่ทะยานขึ้น 15% ในเดือนม.ค.
ไนเกล กัลท์ นักวิเคราะห์จากไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอและเปราะบาง ซึ่งทำให้บริษัทต่างๆไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้อย่างเต็มที่
"อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด" กอลท์กล่าว "เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเผชิญความเสี่ยงในระยะยาวในช่วงที่เหลือของปีนี้ และอาจจะเผชิญกับภาวะเงินฝืดมากกว่าเงินเฟ้อ"
เมื่อวานนี้ บริษัทคาเทอร์พิลลาร์ อิงค์ประกาศแผนการปลดพนักงานกว่า 2,400 คนที่โรงงาน 5 แห่งในรัฐอิลลินอยส์, อินเดียนา และจอร์เจีย ตามมาตรการปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในยามที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ขณะเดียวกันโนเกีย ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ของโลกประกาศจะลอยแพพนักงาน 1,700 คนทั่วโลกเพื่อลดต้นทุนเช่นกัน หลังบริษัทได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคปรับลดการจับจ่ายซื้อสินค้าในยุคเศรษฐกิจถดถอย