บรรดาผู้บริหารภาคธุรกิจจากอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน อาร์เจนติน่า และแคนาดา จะกดดันให้นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษเดินหน้าต่อต้านการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศยามที่ทั่วโลกเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
โดยนายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายปีเตอร์ แมนเดลสัน รัฐมนตรีกระทรวงการค้า ร่วมด้วยนายจอห์น เดนแฮม รัฐมนตรีศึกษาธิการจะเข้าพบกับตัวแทนกลุ่มธุรกิจภาคเอกชนจากอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี และประเทศอื่นๆในกรุงลอนดอน เพื่อรับฟังประเด็นสำคัญก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศ G-20 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 2 เม.ย.นี้
จอห์น คริดแลนด์ รองผู้อำนวยการสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษกล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า "ผู้นำจากประเทศต่างๆที่ได้เข้าร่วมประชุมกันไปเมื่อเดือนพ.ย.ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายการค้าเสรีและดำเนินการซื้อขายในตลาดเปิด"
ขณะเดียวกัน บราวน์ได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆหลีกเลี่ยงการจัดตั้งกำแพงภาษีที่จะเป็นการป้องกันอุตสาหกรรมภายในประเทศ หลังจากที่สหรัฐกำหนดแนวคิดกีดกันทางการค้าผ่านนโยบายซื้อสินค้าอเมริกา หรือ "Buy American" ที่สมาชิกสภาคองเกรสพยายามบรรจุในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7.89 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านไมเคิล เอลเลม โฆษกของบราวน์กล่าวว่า "ประเด็นเรื่องการค้าจะถูกหยิบยกขึ้นเป็นวาระการประชุม ซึ่งเขาจะหารือกับผู้นำภาคธุรกิจเกี่ยวกับกลไกการจับตาความเคลื่อนไหวด้านการใช้นโยบายป้องกันอุตสาหกรรมและจะหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าด้วย"