ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐแถลงต่อสภาคองเกรสว่า เขาจะทำให้ชาวอเมริกันมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่นำเงินภาษีราษฎรไปจ่ายโบนัสให้กับพนักงานของบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) พร้อมส่งสัญญาว่าจะเร่งตัดความช่วยเหลือแก่ AIG และกล่าวว่า AIG จะต้องนำเงินโบนัสที่จ่ายให้พนักงาน คืนให้กับรัฐบาล
"เราจะพยายามต่อไปเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ AIG ซึ่งโดยหลักการแล้วเราจะต้องลดความเสี่ยงที่จะทำให้ระบบการเงินทั้งระบบได้รับความเสียหาย ควบคู่ไปกับการลดความเสียหายของเงินภาษีราษฎร นอกจากนี้ เราจะหาทางออกในกรณีของ AIG ซึ่งรวมถึงการตัดความช่วยเหลือ" ไกธ์เนอร์กล่าวต่อสภาคองเกรส ซึ่งมีนางแนนซี เพโลซี โฆษกทำเนียบขาว และนายแฮร์รี รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา เข้าร่วมฟังด้วย
ไกธ์เนอร์ถูกแรงต้านจากสภาคองเกรสในกรณีที่เข้ามีส่วนรับผิดชอบต่อ AIG ที่จ่ายเงินโบนัสและค่าชดเชยให้กับพนักงานเป็นเงินรวม 165 ล้านดอลลาร์ ทั้งๆที่บริษัทต้องรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้เม็ดเงินที่รัฐบาลสหรัฐอัดฉีดช่วยเหลือ AIG พุ่งเป็น 1.70 แสนล้านดอลลาร์
"เราเตรียมสั่งการให้ AIG นำเงินโบนัสที่จ่ายให้กับพนักงานมาคืนให้รัฐบาล และเราจะตัดความช่วยเหลือแก่ AIG ให้เท่ากับเงินที่ทางบริษัทจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน" ไกธ์เนอร์กล่าว
ท่าทีอันแข็งกร้าวของไกธ์เนอร์สอดคล้องกับเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลสหรัฐที่นำงบประมาณของชาติเข้าอุ้มกิจการ AIG ถึง 3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดรัฐบาลนำเงินไปอัดฉีดถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และจิม โรเจอร์ส กูรูด้านเศรษฐกิจระดับแนวหน้าของโลกที่แนะนำว่ารัฐบาลควรปล่อยให้ AIG ล้มละลายไป หลังจาก AIG ขาดทุนหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4 และยังทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อจ่ายให้กับพนักงาน 4,600 คนจากทั้งหมด 116,000 คนที่ยืนยันว่าจะไม่ยอมลาออก