ธนาคารยักษ์ใหญ่ในจีน 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า (ICBC) แบงค์ ออฟ ไชน่า อะกริคัลเจอรัล แบงค์ ออฟ ไชน่า และไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ คอร์ป วางแผนจ้างนักศึกษาจบใหม่ถึง 37,500 คนในปีนี้ สวนกระแสวงการธุรกิจการเงินและธนาคารทั่วโลกที่พากันลดพนักงานไปแล้วกว่า 280,000 คน เพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตสินเชื่อที่ส่งผลคุกคามไปทั่วโลก
กระทรวงศึกษาธิการของจีนประเมินว่า จะมีนักศึกษาจบการศึกษาในปีนี้สูงถึง 6.1 ล้านราย ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าจำนวนประชากรของเดนมาร์กทั้งประเทศ ซึ่งการจ้างงานนักศึกษาครั้งนี้จะช่วยให้ธนาคารมีเครือข่ายแรงงานต้นทุนต่ำในขณะที่ธนาคารต้องปล่อยกู้มากขึ้นเพื่อสนับสนุนแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 5.85 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลจีน
ซูนิล การ์จ นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า จีนมีนักศึกษาที่มีความสามารถอีกมาก และจีนเองก็อาจจะเป็นเพียงประเทศเดียวที่มีการขยายตัวในส่วนของธุรกิจไฟแนนซ์
นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ธนาคารไอซีบีซี แบงค์ ออฟ ไชน่า และธนาคารไชน่า คอนสตรัคชั่น เป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุด 3 รายในโลกเมื่อประเมินจากมูลค่าทางตลาด คาดว่า จะรายงานตัวเลขกำไรที่สูงขึ้นในปีที่แล้ว ซึ่งจะมีการประกาศตัวเลขในสัปดาห์หน้า โดยไอซีบีซอาจจะทำรายได้สูงขึ้น 37% แตะ 1.12 แสนล้านหยวน หรือ 1.64 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรของไชน่า คอนตรัคชั่น อาจจะเพิ่มขึ้น 44% แตะ 9.97 หมื่นล้านหยวน
ในขณะที่การขยายตัวของตัวเลขกำไรภาคการธนาคารมีแนวโน้มว่าจะอ่อนตัวลงในปีนี้ แต่ธนาคารเหล่านี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้ายทางการเงินที่ทำให้เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปและโรยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ กรุ๊ป ต้องขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล