นายสมชาย จารุเกษมรัตนะ รักษาการผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ กทพ.จะเปิดให้บริการทางพิเศษพร้อมเก็บค่าผ่านทาง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายทางพิเศษสายรามอินทรา-อาจณรงค์ โดยมีแนวสายทางเริ่มต้นจากบริเวณถนนรามอินทรา กม.5.5 ไปเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 9.5 ก.ม. ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการจะเก็บค่าผ่านทางเพิ่มอีก 10 บาท
โครงการทางยกระดับด้านทิศใต้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี ระยะทาง 1.6 กม. ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีที่ต้องการเข้าออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับความสะดวกมากขึ้น และโครงการทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ระยะทาง 22.49 กม. ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการฟรีเพื่อรอการก่อสร้างระบบเก็บค่าผ่านทาง โดยการจัดเก็บค่าผ่านทางในส่วนนี้จะไม่จัดเก็บค่าผ่านทางช่วงสุขสวัสดิ์-บางขุนเทียน ระยะทาง 13.27 กม. ซึ่งมีแนวเส้นทางเชื่อมต่อกันเนื่องจากเส้นทางดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง
ทั้งนี้ กทพ.คาดว่าการเปิดให้บริการดังกล่าวจะทำให้รายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 5 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากทางพิเศษรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 1.5 ล้านบาท จากเดิมมีรายได้วันละ 2.8 ล้านบาท, รายได้จากทางพิเศษบูรพาวิถี เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 3 แสนบาท จากเดิมมีรายได้วันละ 3 ล้านบาท และรายได้จากทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ จะเพิ่มขึ้นเป็นวันละประมาณ 3.5 ล้านบาท
"คาดว่าจะทำให้รายได้รวมของการทางฯ เพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 5 พันล้านบาท และหากเดือนเมษาฯ นี้ การทางฯ สามารถเจรจากับกรมทางหลวงเรื่องการจัดเก็บค่าผ่านทางหลวงพิเศษช่วงสุขสวัสดิ์-บางขุนเทียนแล้วเสร็จ การทางฯก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย" นายสมชาย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกที่เริ่มจัดเก็บค่าผ่านทาง เชื่อว่าจำนวนผู้ใช้ทางจะลดลง แต่หลังจากนั้นไม่นานจำนวนผู้ใช้ทางจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากพบว่าการเปิดให้บริการทางพิเศษที่เพิ่มขึ้นจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ทาง โดยคาดว่าปริมาณการจราจรรวมจากทั้ง 3 โครงการ จะเพิ่มขึ้นวันละ 1.1 แสนคัน แบ่งเป็น ปริมาณจราจรทางพิเศษรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก จะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1 หมื่นคัน จากเดิมวันละ 1 แสนคัน, ปริมาณจราจรทางพิเศษบูรพาวิถี เพิ่มขึ้นอีกวันละ 1 หมื่นคัน จากเดิมวันละ 8 หมื่นคัน และปริมาณจราจรทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ จะอยู่ที่วันละประมาณ 9 หมื่นคัน จากเดิมที่มีผู้ใช้ 1 แสนคัน
สำหรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก รถยนต์ 4 ล้อ จัดเก็บ 40 บาท เดิม 30 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ จัดเก็บ 60 บาท เดิม 50 บาท รถยนต์ 10 ล้อขึ้นไป จัดเก็บ 80 บาท เดิม 70 บาท, ทางพิเศษบูรพาวิถีจัดเก็บแบบระบบปิด คิดค่าแรกเข้าสำหรับ 20 กม.แรก สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ 20 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ 45 บาท รถยนต์มากกว่า 10 ล้อขึ้นไป 70 บาท หลังจากนั้นจะเก็บเพิ่ม กม.ละ 1.20, 2.40 และ 3.60 บาทตามลำดับ และทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์จัดเก็บแบบระบบปิด คิดค่าแรกเข้าสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ 20 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ 40 บาท รถยนต์ 10 ล้อขึ้นไป 60 บาท หลังจากนั้นจะเก็บเพิ่ม กม.ละ 1, 2 และ 3 บาท ตามลำดับ
ขณะนี้ กทพ.อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ ทำให้มีความจำเป็นต้องยกเลิกการใช้บัตรทางด่วน(TAG) ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 7 พ.ค.นี้ โดยผู้ใช้ที่มีเงินเหลือในบัตร กทพ.จะคืนเงิน และเงินค่าประกันบัตร 300 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเจ้าของบัตรต่อไป