มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับเครดิตของฮอนด้า มอเตอร์ โค บริษัทรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นท่ามกลางภาวะอุปสงค์รถยนต์ซบเซา โดยอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวของฮอนด้าถูกปรับลดมาอยู่ที่ระดับ A1 จากระดับ Aa3
การปรับลดอันดับเครดิตในครั้งนี้พิจารณาจากการคาดการณ์ของฮอนด้าว่า ผลกำไรของบริษัทจะตกลง 87% ในปีนี้มาอยู่ที่ 8 หมื่นล้านเยน (812 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากยอดขายยานยนต์ในสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของฮอนด้าลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2524 โดยธุรกิจรถจักรยานยนต์ของบริษัทจะช่วยให้ฮอนด้าสามารถรักษาระดับการทำกำไรได้ ต่างจากโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และนิสสัน โค ที่คาดว่าบริษัทอาจประสบภาวะขาดทุน
จุนอิจิ ยามากิ นักวิเคราะห์จากมูดี้ส์กล่าวว่า "การปรับลดอันดับเครดิตเป็นผลมาจากอุปสงค์รถยนต์ของฮอนด้าในตลาดที่พัฒนาแล้วดิ่งลงอย่างรวดเร็ว"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นอกจากฮอนด้าแล้ว โตโยต้า บริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกก็ถูกมูดี้ส์ปรับลดอันดับเครดิตจากระดับสูงสุดไปเมื่อวันที่ 6 ก.พ. เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ที่ปรับตัวลดลงในสหรัฐและญี่ปุ่นได้ฉุดรั้งรายได้ของบริษัท ส่วนนิสสัน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่นถูกฟิทช์ปรับลดเครดิตลงแตะระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของฮอนด้าได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินเยนน้อยกว่าค่ายรถอื่นๆของญี่ปุ่น เนื่องจากรถกว่า 80% ของบริษัทที่วางขายในสหรัฐล้วนผลิตขึ้นภายในประเทศ โดยในปีที่ผ่านมา เงินเยนแข็งค่าขึ้น 23% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งภาวะดังกล่าวได้บั่นทอนรายได้ยอดขายจากการส่งออกรถไปต่างประเทศ
ด้านทาเคโอะ ฟูกูอิ ประธานของฮอนด้าคาดว่า ผลกำไรจากกลุ่มรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำรายได้สูงถึงครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในปีหน้าจากการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กรุ่น Wave 110i เจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้