กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่ผ่านมา และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน 0.2% ซึ่งเท่ากับเดือนม.ค.
ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมาได้ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อรายเดือนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.8% ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) บางรายเตือนถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะเงินฝืด ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าลดลงยาวนานและส่งผลกระทบต่อการทำกำไร อีกทั้งยังทำให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ลำบากมากขึ้น ซ้ำร้ายจะยิ่งทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเลวร้ายลงอีก
ฮาร์ม แบนด์ฮอลซ์ นักวิเคระห์จากยูนิเครดิต รีเสิร์ช ในนิวยอร์กกล่าวว่า "ดัชนี CPI ช่วยให้เฟดคลายความวิตกกังวลลงได้"
ทั้งนี้ ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานไต่ระดับขึ้น 1.8% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนก่อนหน้านี้
ด้านราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น 3.3% โดยมีราคาน้ำมันเบนซินทะยานขึ้น 8.3% อย่างไรก็ตาม ราคาเชื้อเพลิงปรับตัวลดลง 36% จากปีที่ผ่านมา
ส่วนราคาอาหารซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของดัชนี CPI ลดลง 0.1% ซึ่งทำสถิติร่วงลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งไม่นับรวมอาหารและเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2542